CDMA (Code Division Multiple Access)

[adminAdmin]

CDMA (Code Division Multiple Access)
เป็นรูปแบบของเทคโนโลยีการสื่อ สารอีกประเภทหนึ่งที่มีให้บริการอย่างแพร่ หลาย
ได้รับการคิดค้นและ พัฒนาโดยบริษัท Qualcomm ระบบ CDMA
จะทำงานโดยการแปลงคลื่นเสียงไปเป็น ข้อมูลดิจิแบบตอล
และถูกนำไปเข้ารหัสเฉพาะสำหรับการใช้งานในแต่ละครั้ง
ซึ่ง ทำให้ระบบ CDMA นั้นสามารถรองรับการใช้งานจากเครื่องลูกข่ายได้ในจำนวนมาก
ใน ระบบ CDMA นั้นยังแบ่งเทคโนโลยีออกไปได้หลายแบบ
อาทิเช่น CDMA One (IS-95A และ IS-95B), CDMA 2000 1x
และ CDMA 2000 1xEVCDMA 2000 1xเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจาก CDMA เดิม โดยได้เพิ่มความสามารถในด้านการรองรับการใช้งานโทรศัพท์
และการรับส่ง ข้อมูลให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 153 kbps
ทำให้สามารถใช้งานมัลติมี เดียได้สะดวกมากขึ้น
CDMA 2000 1xEVเป็นอีกเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาจาก CDMA 2000 1x เดิมโดยได้แบ่งออกเป็นสองแบบคือ CDMA 2000 1xEV-DO หรือ Data Optimized ซึ่งเป็นการพัฒนาความสามารถในด้านการใช้งานรับส่งข้อมูลให้มีความเร็วสูง ขึ้นถึง 2.4 Mbps
และอีกแบบหนึ่งคือ CDMA 2000 1xEV-DV หรือ Data and Voice
ซึ่งเป็นการพัฒนาให้รองรับทั้งการใช้งานเสียงและข้อมูลที่ดียิ่ง ขึ้น

Credit Google

ผู้ให้บริการในไทยก็ได้แก่ Hutch จะเป็นการให้บริการแบบ CDMA2000 1X by CAT Wireless Multimedia ส่วน CAT
ซึ่งเป็นรูปแบบเครือข่าย CDMA2000 1x เช่นเดียวกันQUOTE ประโยชน์ ของ CDMA2000 1x ตอบสนองเรื่องการรองรับเสียงและข้อมูล
เทคโนโลยี CDMA2000 1x สามารถรองรับการส่งสัญญาณทั้งในรูปของของเสียงและข้อมูล ผ่านช่องสัญญาณระบบ CDMA มาตรฐาน ขนาด 1.25 MHz
ซึ่งให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ หลายประการ
• ข้อที่ 1 ระบบ CDMA ที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบ CDMA ในยุคแรกถึง 2 เท่า (รวมทั้งมีประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่าระบบ CDMA และ GSM) ทั้งยังสามารถรองรับการให้บริการด้านเสียงที่มีปริมาณการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายในรูปแบบใหม่
• ข้อที่ 2 ระบบ CDMA2000 1x สามารถรับส่งข้อมูลด้วยอัตราความเร็วโดยเฉลี่ยที่ 50-90 kbps (ซึ่งเร็วกว่าความเร็วโดยเฉลี่ยในการต่อสัญญาณโทรศัพท์) โดยมีอัตราการส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดที่ 153 kbps

โทรศัพท์ระบบ CDMA2000 1x ยังสามารถเปิดเครื่องรอรับสายได้นานกว่า เนื่องจากระบบ CDMA2000 1x ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยี CDMA ในยุคแรก จึงทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถอัพเกรดระบบของตนได้ง่ายดาย และในราคาประหยัด สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถใช้เครื่องเดิมของตน ติดต่อผ่านโครงข่ายที่ได้รับการอัพเกรดใหม่โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่ อย่างใด
ข้อมูล http://www.catcdma.c...priviledge.html

นั้น หมายความว่า หากนึกถึง CDMA แล้ว จะนึกถึง มัลคิมีเดีย คือภาพและเสียง นั่นหมายความว่า อาจจะมีการถ่ายทอดสดโทรทัศน์ผ่านระบบ CDMA หรือซื้อภาพยนตร์ผ่านมือถือรับชมได้จากหน้าจอโทรศัพท์เลยก็เป็นได้ แน่ นอนว่า ระบบใหม่ ย่อมดีกว่าระบบเก่า แม้ว่า CATCDMA จะเปิดตัวเมื่อประมาณปลายปีที่แล้วก็ตาม แต่สำหรับพื้นที่การให้บริการ จะเป็นเรื่องใหญ่อยู่ เพราะมีการขยายสัญญาณครอบคลุม แต่ไม่ครบทุกจังหวัดครับ


กรุงเทพฯและปริมณฑล
ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี และสมุทรสาคร
ภาคกลาง
ได้แก่ นครปฐม อยุธยา สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง นครนายก ลพบุรีและสระบุรี
ภาค ตะวันออก
ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง ตราด จันทบุรี
ภาคตะวันตก
ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์


หากว่าอยู่นอกเขตพื้นที่การให้บริการ ก็ยังสามารถ โรมมิ่งกับเครือข่ายของ Hutch ได้อีกด้วยไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็โทรได้
ดียิ่งขึ้น เพราะวันนี้เราร่วมกับ กสท ให้คุณนำฮัทช์ไปใช้โทรได้ทั่วประเทศ คลอบคลุมทุกจังหวัดทั่วไทยได้อย่างสะดวกสบาย
วันนี้...ถึงจะอยู่ที่ ไหนก็มั่นใจกับฮัทช์ ได้เต็มที่ จากการขยายเครือข่ายและเพิ่มการติดตั้งสถานีฐาน เรียบร้อยแล้วกว่า 260 แห่ง
เพื่อให้คุณสนุกกับ มัลติมีเดียความเร็วสูง ด้วยเทคโนโลยี CDMX 2000 1X ได้กว้างไกลขึ้นครอบคลุมถึง 25 จังหวัดและโทรชัดทั่วครอบคลุม 76 จังหวัด
ด้วยเครือข่าย กสท.

ซึ่งแน่นอนว่า หากใครจะเลือกใช้ CATCDMA อาจจะต้องพิจารณาก่อนว่า พื้นที่ๆคุณใช้งานประจำ ที่ทำงาน บ้าน โรงเรียน นั้นเป็นพื้นที่ให้บริการเครือข่ายของ CATCDMA
หรือ Hutch หรือไม่ และนอกจากการให้บริการด้านเสียงแล้ว ด้านการสื่อสาร หลายคนอาจเลือกมือถือในระบบ CDMA เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ความเร็วก็น้องๆ ADSL เลยล่ะ
(ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการด้วย)

สิ่งที่ต้องพิจารณา
แน่นอนที่สุด เครื่องโทรศัพท์ จะใช้แบบเดียวกับ GSM พวกเครือข่าย 900 (AIS)
1800 (Dtac/Truemove) 1900 (Thai Mobile) ก็เป็นไปไม่ได้ แล้วหากมีใครหลอกคุณว่าเปลี่ยนมือถือ GSM ให้ใช้ CDMA หรือเปลี่ยนมือถือ CDMA ให้ใช้ GSM ได้
นั่นอย่าไปเชื่อนะครับ เพราะหลอกลวงทั้งนั้น ไม่มีทางเปลี่ยนได้เพราะคนละระบบกันครับ
ทาง CATCDMA มีเครื่องโทรศัพท์ให้เลือกมากมาย ส่วนใหญ่ก็หน้าตาคล้ายๆกับมือถือระบบ GSM นั่นแหล่ะ อย่าง SAMSUNG ก็มีรุ่น Samsung SCH-S179
ที่หน้าตาเหมือนกับ SAMSUNG C130 เปี้ยบเลย แต่ใช้แทนกันไม่ได้นะครับ

ค่าใช้บริการโทรศัพท์ เข้าไปดูในเวปไซต์ โอ้โห ค่าโทรถูกมากๆเลยครับ
http://www.catcdma.c.../promotion.html

หาก ใครต้องการซื้อไปเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเป็นโมเด็ม มีอุปกรณ์จำหน่ายพร้อมเลยครับ
โปรโมชั่นก็ไม่ต่างจาก ADSL มากนัก แต่เร็วกว่า 56K แน่นอน
รายการส่งเสริมการขายสำหรับค่าโทร (ชื่อโปรโมชั่น “ CAT Load ”)
590 บาทต่อเดือน อินเตอร์เน็ต 20 ชั่วโมง
790 บาทต่อเดือน อินเตอร์เน็ต ไม่จำกัด
ค่าโทรก็แค่ 1.50 เองครับ (แน่นอนว่าคนเล่นเน็ต จะออนไลน์ ไม่ค่อยคุยยาวอยู่แล้วล่ะครับ)

ศูนย์ บริการครอบคลุมหลายจังหวัดเลยครับ
http://www.catcdma.c...shop/index.html

ลอง ติดตามรายละเอียดได้จาก http://www.catcdma.com
เชื่อได้ว่า เครือข่าย CDMA ถ้าได้รับการสนับสนุน Content เหมือนกับระบบ GSM ก็จะได้ประโยชน์มากๆเลยครับ ค่าโทรก็ไม่แพง สัญญาณก็ใช้ได้
ฝากด้วย นะครับ อยากให้ทำตลาดให้เยอะกว่านี้ ขนาดนิตยสาร สื่อต่างๆ ที่รองรับ Hutch เห็นได้น้อยเต็มที ไม่เหมือนกับ GSM ที่คนใช้เยอะกว่า เปลี่ยนเครื่องบ่อยและง่ายกว่าครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก CAT CDMA ครับ


THK. ส้ม โควตมาจาก http://www.pantip.com

[adminAdmin]

ก่อนจะอธิบายเรื่อง 3G มีผู้ถามมามากเกี่ยวกับการใช้งาน Aircard ว่าระบบไหนอย่างไร ขออธิบายดังนี้ครับ
บ้านเรามีระบบการใช้งาน internet ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 ระบบครับ
<1. GSM 2. CDMA>

1. GSM
1.1 ถ้าเป็น EDGE/GPRS มี AIS DTAC TRUE ครอบคลุมพื้นที่ส่วนมากทั่วประเทศ ที่ไหนมีสัญญาณมือถือก็น่าจะมี EDGE หรือ GPRS
ตัวอย่าง http://www.ais.co.th/vas/datatips/ http://vas.dtac.co.th/th/communication_p4.htm
ความ เร็ว EDGE/GPRS จะประมาณ 236k เท่านั้นครับ
1.2 ถ้าเป็น 3G ก็จะมี TOT ใช้ได้แค่กทม. และปริมณฑล บางส่วน (www.tot3g.net)AIS DTAC TRUE ก็จะมี 3G
ซึ่งยังเป็นการทดสอบระบบ ใช้ได้บางพื้นที่และบางคน รายละเอียดสอบถามค่ายนั้นๆดูครับ

2. CDMA
2.1 CAT CDMA ครอบคลุม 51 จังหวัด http://www.catcdma.com ปัจจุบันมี 2 ระบบคือ CDMA1X 153k
และ CDMA EV-DO Rev.A (3G) 3.1Mbps (ใช้จริงอาจได้แค่ 1-1.5M)
2.2 HUTCH ครอบคลุม 25 จังหวัดภาคกลาง http://www.hutch.co.th/index_th.htm CDMA1X 153 k ถ้าเป็น CDMA EV-DO Rev.0 2.4M
จะมีเฉพาะบางพื้นที่เช่น ศรีราชา หัวหิน กทม บางส่วน

การซื้อ Aircard จะใช้ได้เพียงบางระบบต้องเช็คให้ดีครับ
1. Aircard EDGE ราคาถูกประมาณ 1000 บาท จะใช้ได้แค่ข้อ 1.1 ทุกค่าย AIS DTAC TRUE
2. Aircard 3G จะต้องดูความถี่ด้วย และดูความเร็วสูงสุดเช่น 3.6M หรือ 7.2 M อนาคตจะมี 14.4M หรือกว่านั้นมาอีก ส่วนมากรองรับ 2100 Mhz ซึ่งมี TOT3G ถ้าเป็น TRUE DTAC ปัจจุบันใช้ 850Mhz ถ้าเป็น AIS 900 Mhz ดังนั้นถ้า Aircard บอกว่า 3G -900/2100Mhz แสดงว่าใช้กับ AIS / TOT ได้เท่านั้น *** Aicard 3G ทุกรุ่นจะใช้ได้กับ EDGE/GPRS ข้อ 1.1 ได้**** ราคา Aircard ก็จะอยู่ที่ 1500 – 3500 บาท หรือมากกว่า แล้วแต่ชนิดครับ
3. Aircard CATCDMA (EVDO Rev.A) จะมี 2 แบบคือใส่ซิม กับไม่ใส่ซิม(จดทะเบียนแบบป้อนข้อมูลไว้แล้ว) ปัจจุบัน CAT ขายเพียงผู้เดียว อนาคตถ้าขายซิมแยกก็สามารถซื้อซิมมาใช้กับ Aircard จาก thai3gsolutions.com ได้ครับ Aircard CDMA ใช้ไม่ได้กับ 3G ของระบบ GSM และ EDGE/GPRS และในทางกลับกันก็ใช้ไม่ได้ Hutch ก็ขายโดย hutch เท่านั้น
ชนิดของ Aircard แยกตาม interface ก็มีเช่น USB , PCMCIA, Expressslot

3G คืออะไร
3G ย่อมาจาก third generation เป็นการกล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ดิจิตอลในยุค ที่ 3
โดยยุคแรก 1G ก็ย้อนกลับไปสมัยโทรศัพท์ระบบอนาล็อค AIS900 และ Worldphone1800 (DTAC)
ยุดที่ 2 , 2G ก็มาสมัย GSM ที่เรารู้จักกันดี การส่งข้อมูลสมัยนั้นผ่าน GPRS ซึ่งมีความเร็วต่ำ ได้พัฒนามาเป็น EDGE มีความเร็วสูงขึ้นจึงเรียกว่าเป็น 2.5G
ยุค ที่ 3 ,3G ใช้ระบบ UTMS และ WCDMA และพัฒนาการมาสู่ 3.5G หรือ HSPDA สามารุรับส่งข้อมูลได้สูงขึ้นมากในปัจจุบัน ม.ค.53 ประเทศไทยมีผู้ให้บริการเชิงพาณิชย์รายเดียว
คือ TOT ใช้ความถี่ย่าน 2100Mhz. ซึ่งเป็นเจ้าของมาก่อนแล้วจึงไม่ต้องไปแย่งประมูลใบอนุญาตแข่งกับใครจริงๆ แล้ว CAT CDMA ซึ่งใช้ระบบ CDMA EVDO Rev.A ที่มีพัฒนามาอีกด้านหนึ่ง ก็ถือว่าเป็น 3G เช่นกันโดยเทคโนโลยีสามารถรองรับ Download ได้ถึง 3.1Mbps. แต่ CATCDMA เขตให้บริการคือ 51 จังหวัดรอบนอก ในส่วนของ Hutch ที่ให้ บริการ 25 จังหวัดรอบใน ซึ่งเดิมให้บริการระบบ CDMA1X ความเร็วในการใช้งานไม่มากประมาณ 153Kbps. ได้เริ่มขยายเป็น EVCO Rev.0 บางพื้นที่แล้ว ความเร็วสูงสุดตามมาตรฐานคือ 2.4Mbps.
ล่าสุดทาง CAT ได้ตกลงซื้อ Hutch แล้ว เร็วๆนี้เราจะได้ใช้ CATCDMA กันทั่วประเทศหรือไม่ต้องติดตามดูต่อไป อนาคต 4G เป็นระบบ LTE ซึ่งบางประเทศเริ่มมีการพัฒนาและทดสอบแล้วเช่น อเมริกาและสวีเดน
———————————-

– 3G refers to the third generation of mobile telephony (that is, cellular) technology. The third generation, as the name suggests, follows two earlier generations.

The first generation (1G) began in the early 80′s with commercial deployment of Advanced Mobile Phone Service (AMPS) cellular networks. Early AMPS networks used Frequency Division Multiplexing Access (FDMA) to carry analog voice over channels in the 800 MHz frequency band.

The second generation (2G) emerged in the 90′s when mobile operators deployed two competing digital voice standards. In North America, some operators adopted IS-95, which used Code Division Multiple Access (CDMA) to multiplex up to 64 calls per channel in the 800 MHz band. Across the world, many operators adopted the Global System for Mobile communication (GSM) standard, which used Time Division Multiple Access (TDMA) to multiplex up to 8 calls per channel in the 900 and 1800 MHz bands.

The International Telecommunications Union (ITU) defined the third generation (3G) of mobile telephony standards – IMT-2000 – to facilitate growth, increase bandwidth, and support more diverse applications. For example, GSM could deliver not only voice, but also circuit-switched data at speeds up to 14.4 Kbps. But to support mobile multimedia applications, 3G had to deliver packet-switched data with better spectral efficiency, at far greater speeds.

However, to get from 2G to 3G, mobile operators had make “evolutionary” upgrades to existing networks while simultaneously planning their “revolutionary” new mobile broadband networks. This lead to the establishment of two distinct 3G families: 3GPP and 3GPP2.

The 3rd Generation Partnership Project (3GPP) was formed in 1998 to foster deployment of 3G networks that descended from GSM. 3GPP technologies evolved as follows.

• General Packet Radio Service (GPRS) offered speeds up to 114 Kbps.

• Enhanced Data Rates for Global Evolution (EDGE) reached up to 384 Kbps.

• UMTS Wideband CDMA (WCDMA) offered downlink speeds up to 1.92 Mbps.

• High Speed Downlink Packet Access (HSDPA) boosted the downlink to 14Mbps.

• LTE Evolved UMTS Terrestrial Radio Access (E-UTRA) is aiming for 100 Mbps.

GPRS deployments began in 2000, followed by EDGE in 2003. While these technologies are defined by IMT-2000, they are sometimes called “2.5G” because they did not offer multi-megabit data rates. EDGE has now been superceded by HSDPA (and its uplink partner HSUPA). According to the 3GPP, there were 166 HSDPA networks in 75 countries at the end of 2007. The next step for GSM operators: LTE E-UTRA, based on specifications completed in late 2008.

A second organization – the 3rd Generation Partnership Project 2 (3GPP2) — was formed to help North American and Asian operators using CDMA2000 transition to 3G. 3GPP2 technologies evolved as follows.

• One Times Radio Transmission Technology (1xRTT) offered speeds up to 144 Kbps.

• Evolution – Data Optimized (EV-DO) increased downlink speeds up to 2.4 Mbps.

• EV-DO Rev. A boosted downlink peak speed to 3.1 Mbps and reduced latency.

• EV-DO Rev. B can use 2 to 15 channels, with each downlink peaking at 4.9 Mbps.

ที่มา: http://whatis.techtarget.com/